[รีวิว] นอนโรงอาบน้ำที่ญี่ปุ่น ที่ สถานีรถไฟ Yokohama

  เพื่อนๆที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น หลายๆคน อาจจะอยากลองหาที่พักราคาประหยัด ที่ญี่ปุ่นนั้น นอกจาก โรงแรมแล้วยังมีตัวเลือกราคาประหยัด ไม่เกิน 5000 เยน อยู่ด้วยอาทิเช่น
อินเตอร์เน็ตคาเฟ, โรงแรมแคปซูล และ โรงอาบน้ำหรือออนเซ็น ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง สำหรับผู้ที่เน้นเที่ยว อออกเช้ากลับดึกนอนอย่างเดียวหรือกลัวไม่ทันรถไฟ เครื่องบิน จึงต้องหาที่นอนใกล้ๆ
ครั้งนี้เนื่องจากต้องไปดื่มกับเพื่อนชาวญี่ปุ่นกลับก็ดึกหลายคืนไปนอนโรงแรมก็แพง นอนโรงแรมแคปซูลก็ค่อนข้างกังวลใจหวิวๆเหมือนไปนอนในโลงยังไงยังงั้นเลย
งั้นคราวนี้ไปลองนอนโรงอาบน้ำดูสักทีดีกว่า ตามพี่มา~~

วันนี้โรงอาบน้ำที่จะพาไปมีชื่อว่า Sky Spa Onsen ซึ่งตั้งอยู่ที่ ชั้น 14 ตึก Sky Build (SKY ビルド) โดบตึกนี้นั้นอยู่ติดกับ Yokohama station เลย เรียกว่าเดินออกมาปุ๊ปเลี้ยวนิดเดียว ก็ถึงเลย เย้!

ออกจากสถานีเดินมาทาง SOGO พอใกล้จะถึง เราจะเห็นเสาตกแต่งใหญ่ๆเขียนว่า SKY หาทางขึ้นลิฟต์ไปชั้น 14 โลดดด

มาถึงแล้วจะเห็นป้ายโรงอาบน้ำ หรือ ออนเซ็นต์ หรือ สปา แล้วแต่จะเรียกเลย ป้ายสวยเด่นเป็นสง่าอยู่หน้าลิฟต์

  การเข้าใช้บริการที่นี่สามารถเข้าใช้บริการได้ตั้งแต่ 10.30 เหมือนกับสปาทออนเซ็นทั่วไป ซึ่งเข้าและออกได้ครั้งเดียว
เนื่องจากวันนี้เราจะเข้ามานอนพัก กฏการใช้บริการก็เหมือนกันคือเมื่อเข้าไปใช้บริการแล้วไม่สามารถออกได้

  ส่วนกระเป๋าใหญ่เนื่องจากว่าภายในนั้นไม่มีที่เก็บ ถึงแม้ห้องที่ใช้บริการครั้งนี้จะเป็นแบบพรีเมียมแบบมีม่านกั้นส่วนตัว
แต่ก็ไม่มีใครเอากระเป๋าเข้าไปคาดว่าคงไม่อนุญาตให้เอาเข้า เพราะฉะนั้น ของจำเป็นที่ต้องใช้ต่างๆก็ควรจะเอามาเก็บไว้ในเป้สะพายที่สามารถพกเข้าไปเก็บในล๊อกเกอร์ได้
ส่วนกระเป๋าใหญ่เราสามารถนำมาฝากไว้ที่ล๊อบบี้ได้ พนักงานก็จะนำกระเป๋าไปเก็บไว้ให้

เมื่อมาถึงปุ๊ปขั้นแรกก็นำรองเท้าไปเก็บในตู้ก่อน พนักงานก็จะเก็บเงินและบอกข้อห้ามการเข้าใช้บริการ คร่าวๆดังนี้

- ห้ามมีรอยสัก เพราะคนญี่ปุ่นเค้ากลัวพวกยากูซ่า หากมียากูซ่ามาใช้บริการ แขกก็จะพาลหนีหมด

- ห้ามส่งเสียงดัง ด้านในนั้นเป็นสถานที่พักผ่อนส่วนใหญ่ก็จะนอน ไม่ควรวิ่งหรือส่งเสียงดังรบกวนแขกท่านอื่น

- ห้ามนำกล้องและมือถือเข้าไปใช้บริการส่วนออนเซ็น อย่าเอาเข้าไปเลยพี่ขอร้อง

- ห้ามนำอาหารจากภายนอกเข้าไป ข้างในมีน้ำเปล่าให้ดื่มฟรี กับตู้กดน้ำอัดลมรวมถึงห้องอาหารให้ใช้บริการ

พอพยักหน้าเข้าใจกฏระเบียบเสร็จ พนักงานก็จะนำกระเป๋าไปเก็บให้พร้อมกับให้เราเอากุญแจล๊อกเกอร์รองเท้ามาแลกกุญแจห้องอาบน้ำ

และให้เลือกขนาดไซส์ยูกาตะ และให้ใบเสร็จมา ซึ่งใบเสร็จใบนี้จะใช้ตอนขึ้นไปห้องพีกหลังอาบน้ำเสร็จให้พนักงานข้างในดูเพื่อพาไปที่พักอีกที

เมื่อเช็คอินเสร็จแล้ว หลังจากเหนื่อยล้า เดินมาทั้งวัน ได้เวลาอาบน้ำแล้วสิ โซนอาบน้ำและโซนนอนจะแยกชายหญิงกันชัดเจน

ต้องเข้าให้ถูกห้องนะ ไม่งั้นจากที่จะได้พักผ่อนที่ออนเซ็นอาจจะได้ไปนอนพักที่โรงพักแทน

เก็บของเข้าล๊อกเกอร์ให้เรียบร้อย พร้อมกับสลัดผ้าอย่าให้เหลือแม้แต่ กกน. เพื่อไปอาบน้ำประชันปิ๊กาจู้กับชาวญี่ปุ่น

ก่อนเข้าก็จะมีโซนที่สามารถหยิบผ้าเช็ดตัวได้ สามารถนำผ้าผืนเล็กเข้าไปได้ แต่ผ้าผืนใหญ่ห้ามเข้า

[เครดิตรูปภาพจาก booking.com]

  ภายในโรงอาบน้ำก็จะมี สระน้ำร้อน น้ำวน ห้องซาวน่า ห้องสตรีมให้บริการ อ้อ ก่อนจะลง ออนเซ็นต้องไปอาบน้ำที่ก๊อกฝักบัวให้เรียบร้อยก่อนนะ

นอกจากนั้นในส่วนโรงอาบน้ำ ซึ่งมีทั้งน้ำร้อน น้ำเย็นเจี๊ยบ น้ำวน ซาวน่า สตรีม นอกจากนั้นยังมีส่วนนวดให้บริการโดย ป้าชาวญี่ปุ่นด้วย โดยต้องเสียเงินเพิ่ม
(ป้าก็เดินไปเดินมาท่ามกลางฝูงปิ๊กาจู๊ชายหนุ่ม ตอนแรกเดินเจอป้าก็แอบตกใจกลัวสายตาป้าจะเย้ยหยัน หลังๆเริ่มชิน)

  เมื่ออาบน้ำเสร็จก็จะมีโซนให้แต่งตัว โดยมีหวี แปรงสีฟัน และเครื่องเป่าผมให้บริการ

สามารถเป่าผม แปรงฟันกันตรงนี้ได้เลย โดยที่พิเศษคือ แปรงสีฟันที่นี่เป็นแบบไม่ต้องใช้ยาสีฟัน คือมียาสีฟันเคลือบบางๆไว้ให้เรียบร้อยแล้ว สุโก้ยยย

เมื่ออาบน้้ำ แปรงฟันสบายตัวแล้ว เราก็ขึ้นไปเข้าห้องนอนกันเถอะ

ส่วนของห้องนอนนั้นจะอยู่บริเวณเดียวกับ Relax Zone ซึ่งประกอาบไปด้วยกองทัพของโซฟาปรับนอนได้
ในโซนนี้แขกสามารถมานอนเล่นบนโซฟาแบบปรับนอนได้ตามสบาย

มีบริการเครื่องดื่มให้กดได้โดยใช้สายรัดข้อมือเราในการซื้อเครื่องดื่มจากตู้อัตโนมัติ กินก่อนไปจ่ายตอนเช็คเอ้าท์

มีบริการตู้กดน้ำให้ดื่มฟรี พร้อมกับบริการนวดแผนไทย สำหรับถ้าเธอเหนื่อยล้า จงเดินเข้าสปา~~

ส่วนของห้องนอนน้้น ที่นี่จะมี 2 แบบคือแบบ ห้องนอนส่วนตัว มีม่านกั้น [Premium Room] 

ลักษณะก็จะเป็นเตียงนอนแบบเอนนอนได้ 180 องศา ขนาดพอดีตัว มีทีวีส่วนตัว มีหูฟัง มีช่องเสียบปลั๊กให้ 

(ตรงส่วน Relax zone ไม่มีที่ให้ชาร์จมือถือนะ) ห้องนี้ตอนกลางคืนก็จะมืดมากๆ มีไฟแค่ led ตัวเล็กๆของใครของมัน

ถึงแม้จะมีม่านกั้น แต่ด้านบนนั้นเปิดโล่ง เพราะฉะนั้น คุณจะได้ประสปการณ์ใหม่คือ เสียงกรนชาวญี่ปุ่น ที่สนั่นหวั่นไหวไม่แพ้ชาติใดในโลก

แต่อาบน้ำร้อนมาง่วงๆก็หลับสนิทนะ แถมกรนดังกว่าชาวญี่ปุ่นอีก 55

[เครดิตรูปจากเวป booking.com]

ส่วนที่ 2 ที่มีให้บริการคือ แคปซูล อันนี้ก็น่าจะสบายแต่เท่าที่เห็นคนที่ซื้อแบบแคปซูล พอตอนกลางคืนก็มานอนในส่วน Relax Zone ถึงเช้าเลย

ซึ่งรวมๆแล้วน่าจะถูกกว่าซื้อแบบ Premium Room ด้วย!! (เอางี้เลยสินะ พี่ญี่ปุ่น)

[เครดิตรูปจากเวป booking.com]

เมื่อถึงตอนเช้า ก็จะได้ยินเสียงสต๊าฟร้องว่า 終了です。(Shūryō desu) ซึ่งเสียงนี้จะมาตอน 8 โมงเช้าและจะมาเป็นระยะๆ มันคือประมาณว่าจบแล้วโว้ย ไปทำงานได้แล้วโว้ย

คืนแรกยังงงๆ กว่าจะลุกก็ 8.45 ปรากฏว่า ห้องอาบน้ำปิดทำความสะอาดแล้วจ้า แต่คืนที่ 2 รู้ทัน ชูเรียวมาปุ๊ป รีบโดดไปอาบน้ำก่อนเลย (เอาจริงๆมีเสียงนาฬิกาปลุกห้องข้างๆประสานเสียงร้องเลยตื่น 55)

ถึงแม้ว่าเค้าจะให้เรา เช็คเอ้าท์ได้ 10 โมง แต่ 9 โมงทุกโซนก็ปิดทำความสะอาดหมด ก็คือ 9 โมงเราก็ต้องออกอยู่ดี

ที่นี่ถึงเราจะจองมาหลายคืน ก็ต้องมาเช็คอินและเช็คเอ้าท์ทุกวัน โดยค่าเสียหายที่นี่ ตกคืนละ 4500 เยน ในส่วนของห้องพรีเมี่ยม (ส่วนแคปซูลน่าจะถูกกว่านั้น) คืนวันศุกร์จะแพงขึ้นอีกนิด (ถ้าจำไม่ผิด 5,400 เยน)

ตอนเช็คเอ้าท์ เราก็เอาสายข้อมือไปคืนและจ่ายค่าขนมต่างๆที่เราใช้ไป นอกจากนั้นที่นี่ยังมีส่วนนั่งพักรวม และ ส่วนกินข้าว ถ้าเราเพิ่มอีก 500 เยนก็สามารถทานข้าวเช้าที่นี่ได้ 
แถมบางวันยังมีคอร์สโยคะให้เล่นอีก (ไม่แน่ใจว่าเสียเงินเพิ่มมั้ย)

[เครดิตรูป จาก www.j2sky.com]

ขอสรุปรีวิวไว้ตามนี้

ข้อดี

 - ถูก ในโซนโยโกฮาม่านั้นจะถูกกว่าโตเกียว แถมมีห้องอาบน้ำให้ใช้ เรียกว่าได้ ออนเซ็นกันทุกวัน

 - เหมาะสำหรับคนที่มีแผนออกเที่ยวทุกวัน ที่พักมีไว้แค่กลับมานอน

 - มีรถไฟตรงไปสนามบิน Haneda เลย โดยใช้ Keikyu Line หรือ รถบัส YCAT หรือจะไป สนามบินNarita ก็มี NEX ให้ขึ้น

ข้อเสีย

 - ต้องวางแผนเรื่องสัมภาระดีๆ เพราะไม่สามารถนำกระเป๋าใหญ่เข้าไปได้

 - ห้องสุขาใช้รวมกัน สำหรับบางคนอาจจะไม่ชอบ แต่ที่นี่ค่อนข้างสะอาด

 - เข้าแล้วออกไม่ได้ต้องนอนเลย

 - ต้องตื่นเช้าไม่เกิน 8.45 น.

วิวสวยๆจากห้อง Relaxation Zone

หวังว่า รีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆที่เตรียมเดินทางไปญี่ปุ่นและกำลังมองหาที่พักราคาประหยัด